Offer Categories: รีไฟแนนซ์

อายุ
ไม่กำหนดอายุ
รายได้ต่อเดือน
20,000 บาทขึ้นไป
วงเงินที่ได้รับ
สูงสุด 100% ของราคาประเมิน
อัตราดอกเบี้ยต่อปี
เริ่มต้น 2.39% ต่อปี
ระยะเวลาผ่อน
สูงสุด 30 ปี
อายุ
ไม่กำหนดอายุ
รายได้ต่อเดือน
มีประวัติการผ่อนชำระที่ดีในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา
วงเงินที่ได้รับ
สูงสุด 100% ของภาระหนี้คงเหลือ
อัตราดอกเบี้ยต่อปี
ไม่เกิน 4.39% ต่อปี
ระยะเวลาผ่อน
สูงสุด 30 ปี
อายุ
21 – 75 ปี
รายได้ต่อเดือน
20,000 บาทขึ้นไป
วงเงินที่ได้รับ
สูงสุด 100% ของราคาประเมิน
อัตราดอกเบี้ยต่อปี
ไม่เกิน 8,25% ต่อปี
ระยะเวลาผ่อน
ไม่กำหนดระยะเวลาผ่อน
อายุ
ไม่กำหนดอายุ
รายได้ต่อเดือน
มีเงินเดือนประจำ
วงเงินที่ได้รับ
สูงสุด 100% ของราคาประเมิน
อัตราดอกเบี้ยต่อปี
ไม่เกิน 4.32% ต่อปี
ระยะเวลาผ่อน
สูงสุด 40 ปี
อายุ
20 – 65 ปี
รายได้ต่อเดือน
ไม่กำหนดรายได้
วงเงินที่ได้รับ
สูงสุด 100% ของราคาประเมิน
อัตราดอกเบี้ยต่อปี
เป็นไปตามประกาศของธนาคาร
ระยะเวลาผ่อน
สูงสุด 30 ปี
อายุ
20 – 70 ปี
รายได้ต่อเดือน
15,000 บาทขึ้นไป
วงเงินที่ได้รับ
สูงสุด 90% ของราคาประเมิน
อัตราดอกเบี้ยต่อปี
สูงสุด 6.60% ต่อปี
ระยะเวลาผ่อน
สูงสุด 30 ปี
อายุ
20 – 65 ปี
รายได้ต่อเดือน
9,000 บาทขึ้นไป
วงเงินที่ได้รับ
สูงสุด 100% ของราคาประเมิน
อัตราดอกเบี้ยต่อปี
12 – 23% ต่อปี
ระยะเวลาผ่อน
60 งวด
อายุ
20 – 75 ปี
รายได้ต่อเดือน
ลูกค้ารายย่อยทั่วไป/สวัสดิการ
วงเงินที่ได้รับ
สูงสุด 3,000,000 บาท
อัตราดอกเบี้ยต่อปี
สูงสุด 4.73% ต่อปี
ระยะเวลาผ่อน
สูงสุด 40 ปี
อายุ
20 – 65 ปี
รายได้ต่อเดือน
15,000 บาทขึ้นไป
วงเงินที่ได้รับ
สูงสุด 95% ของราคาประเมิน
อัตราดอกเบี้ยต่อปี
ดอกเบี้ยคงที่ 2% ในปีแรก
ระยะเวลาผ่อน
สูงสุด 30 ปี
อายุ
ไม่กำหนดอายุ
รายได้ต่อเดือน
ไม่กำหนดรายได้
วงเงินที่ได้รับ
ไม่กำหนดวงเงิน
อัตราดอกเบี้ยต่อปี
ไม่กำหนดดอกเบี้ย
ระยะเวลาผ่อน
ไม่กำหนดระยะเวลาผ่อน
อายุ
21 – 62 ปี
รายได้ต่อเดือน
15,000 บาทขึ้นไป
วงเงินที่ได้รับ
สูงสุด 100% ของราคาประเมินหลักทรัพย์
อัตราดอกเบี้ยต่อปี
สูงสุด 6.53% ต่อปี
ระยะเวลาผ่อน
สูงสุด 35 ปี
อายุ
ไม่กำหนดอายุ
รายได้ต่อเดือน
ไม่กำหนดรายได้
วงเงินที่ได้รับ
ไม่กำหนดวงเงิน
อัตราดอกเบี้ยต่อปี
ไม่กำหนดดอกเบี้ย
ระยะเวลาผ่อน
ไม่กำหนดระยะเวลาผ่อน
อายุ
20 – 65 ปี
รายได้ต่อเดือน
ไม่กำหนดรายได้
วงเงินที่ได้รับ
สูงสุด 100% ของราคาประเมิน
อัตราดอกเบี้ยต่อปี
5.57 – 27.69% ต่อปี
ระยะเวลาผ่อน
84 งวด
อายุ
20 – 65 ปี
รายได้ต่อเดือน
9,000 บาทขึ้นไป
วงเงินที่ได้รับ
สูงสุด 100% ของราคาประเมิน
อัตราดอกเบี้ยต่อปี
12-23% ต่อปี
ระยะเวลาผ่อน
60 งวด

มาทำความรู้จักกับสินเชื่อรีไฟแนนซ์คืออะไรและการรีไฟแนนซ์ดีอย่างไร

รีไฟแนนซ์คืออะไรกันแน่และมีดีอย่างไร หลายคนอาจเคยสงสัยว่าจริง ๆ แล้วรีไฟแนนซ์เหมือนกันไหมกับการขอสินเชื่อในรูปแบบทั่วไป วันนี้เราจะมาหาคำตอบไปพร้อมกัน

ก่อนอื่นเรามาดูกันก่อนว่าความหมายของการรีไฟแนนซ์คืออะไร? รีไฟแนนซ์ (refinance) เป็นการขอสินเชื่อจากธนาคารหรือบริษัทสินเชื่อกับที่แห่งใหม่เพื่อมาปิดยอดหนี้สินของสินเชื่อจากธนาคารหรือผู้ให้บริการรายเดิมที่ได้ใช้บริการอยู่เพื่อรับข้อเสนอใหม่ เช่น โปรโมชั่นที่มีความน่าสนใจกว่า, ดอกเบี้ยรีไฟแนนซ์ในที่ใหม่ที่ถูกกว่าที่เดิม รวมไปถึงประโยชน์ในเรื่องของระยะเวลาในการผ่อนชำระและวงเงินสินเชื่อที่จะได้รับจากส่วนต่าง หรือหากจะให้เข้าใจโดยง่ายเลยก็คือ การรีไฟแนนซ์คือการปรับโครงสร้างของอัตราดอกเบี้ยใหม่ที่เกิดจากการลอยตัว เมื่อผ่อนไปได้ระยะเวลาหนึ่งดอกเบี้ยก็จะเริ่มสูงขึ้น ดังนั้นวิธีเดียวที่จะสามารถปรับลดโครงสร้างหนี้และดอกเบี้ยได้ก็คือการดำเนินการรีไฟแนนซ์นั่นเอง และนอกจากนี้แล้วผู้ที่จะสามารถรีไฟแนนซ์ได้ก็จะต้องเป็นผู้ที่ผ่อนชำระสินเชื่อมาแล้วอย่างน้อย 3 ปี และวงเงินจะต้องเหลือไม่ต่ำกว่าเงื่อนไขที่แต่ละธนาคารกำหนด 

สินเชื่อประเภทรีไฟแนนซ์แตกต่างกันไหมกับสินเชื่อประเภททั่วไป?

อย่างที่เราได้อธิบายไว้แล้วเบื้องต้นว่าการดำเนินการเพื่อขอรีไฟแนนซ์ได้นั้นจะต้องผ่อนทรัพย์สินมาแล้วอย่างน้อยเป็นระยะเวลา 3 ปีจึงจะสามารถทำการการขอสินเชื่อรีไฟแนนซ์กับสถาบันการเงินที่อื่นได้ และหากพิจารณาถึงรายละเอียดของสินเชื่อรีไฟแนนซ์แล้ว รายละเอียดสำคัญของสินเชื่อรีไฟแนนซ์มักไม่ได้มีรายละเอียดที่แตกต่างจากสินเชื่อประเภทอื่น ๆ ทั่วไปมากนัก เพราะโดยส่วนใหญ่หากพิจารณาถึงสินเชื่อบ้านและสินเชื่อบ้านเพื่อรีไฟแนนซ์แล้ว ข้อมูลสินเชื่อแทบจะไม่ได้แตกต่างกัน หรือบางสถาบันการเงินอาจใช้สินเชื่อประเภทเดียวกัน แต่ต่างกันที่เงื่อนไขและโปรโมชั่นในแต่ละปีนั่นเอง ด้วยเหตุนี้การขอสินเชื่อรีไฟแนนซ์จึงมีจุดประสงค์หลักของการรีไฟแนนซ์ก็คือการปรับปรุงและอัปเดตอัตราดอกเบี้ยให้อยู่ในเกณฑ์ปัจจุบัน ซึ่งนั่นหมายความว่าสินเชื่อทั่วไปและสินเชื่อสำหรับรีไฟแนนซ์จึงเป็นสินเชื่อประเภทเดียวกันนั่นเอง แต่อย่างไรก็ตามหากธนาคารที่เราได้ไปดำเนินการติดต่อเพื่อขอรีไฟแนนซ์ในบางแห่งก็จะมีประเภทของสินเชื่อที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งเราก็ต้องพิจารณาต่อไปว่าเงื่อนไขของสินเชื่อรีไฟแนนซ์ที่ได้รับนั้นของธนาคานที่กำลังจะไปยื่นกู้นั้นมีผลดีมากน้อยเพียงใด และมีความคุ้มค่าหรือไม่ต่อการรับบริการ

รีไฟแนนซ์สามารถทำได้กับทรัพย์สินอะไรได้บ้าง

แน่นอนว่าหลายคนที่เคยมีบ้านมีรถและกำลังผ่อนอยู่ ก็คงจะทราบกันดีอยู่แล้วว่าการรีไฟแนนซ์ในปัจจุบันนี้ เราสามารถรีไฟแนนซ์ได้กับสินทรัพย์ 2 ประเภทได้แก่ 

  • รีไฟแนนซ์ประเภทยานพาหนะ: โดยส่วนมากแล้วการรีไฟแนนซ์ส่วนใหญ่ที่มักนิยมทำกัน จะเป็นยานพาหนะที่มีราคาสูงและผ่อนเป็นระยะเวลานาน ได้แก่ รถยนต์, รถมอเตอร์ไซค์ประเภทบิ๊กไบค์ และรถประเภทอื่น ๆ ดังนั้นบริการด้านประเภทรีไฟแนนซ์ที่มีอยู่ในไทย จึงมีให้บริการรีไฟแนนซ์รถยนต์และรีไฟแนนซ์รถจักรยานยนต์

ในปัจจุบันในบางผู้ให้บริการสินเชื่อรีไฟแนนซ์ก็ยังสามารถรีไฟแนนซ์รถยนต์ที่ยังผ่อนไม่หมดได้อีกด้วย ทั้งนี้เงื่อนไขในการรับรีไฟแนนซ์จะต้องเป็นไปตามที่บริษัทกำหนด

  • รีไฟแนนซ์บ้าน: เชื่อว่าหลายคนที่กำลังซื้อและผ่อนบ้านอยู่จะต้องรู้จักกับการรีไฟแนนซ์บ้านอย่างแน่นอน เพราะบ้านเป็นสินทรัพย์ที่ต้องใช้ทั้งวงเงินและระยะเวลาในการผ่อนชำระ จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ธนาคารทุกธนาคารจะมีบริการสินเชื่อรีไฟแนนซ์บ้านไว้รองรับกับความต้องการส่วนนี้

เปิดข้อดีและข้อเสียของการรีไฟแนนซ์มาดูกันชัดๆ

หรับผู้ที่กำลังต้องการและสนใจอยากรีไฟแนนซ์นั้น เรามาดูไปพร้อมกันว่าการรีไฟแนนซ์นั้นมีทั้งข้อดีและข้อเสียอย่างไรบ้าง โดยจะขอเริ่มที่ข้อเสียก่อนมาดูกันเลย

ข้อเสียของการรีไฟแนนซ์

  1. ใช้ระยะเวลาในการดำเนินการนาน ในบางครั้งเงื่อนไขของสัญญาในการรีไฟแนนซ์ใกล้จะจบลง การมองหาธนาคารแห่งไว้รองรับเพื่อรีไฟแนนซ์ก็เป็นอีกทางออกที่ดี แต่การดำเนินการในการเปลี่ยนธนาคารนั้นอาจใช้ระยะเวลาที่นานถึง 1 เดือน และนอกจากนี้ก็อาจเสี่ยงดำเนินการไม่สำเร็จอีกด้วย
  2. มีค่าใช้จ่ายยิบย่อยให้ต้องจ่าย การดำเนินการในขั้นตอนต่าง ๆ ก่อนเสร็จสิ้นกระบวนการอาจมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมเกิดขึ้นซึ่งอาจไม่คุ้มกับเงื่อนใหม่ที่รออยู่
  3. หากไถ่ถอนก่อนกำหนดหรือผิดเงื่อนไขสัญญาที่ได้ทำไว้กับธนาคารเก่าอาจเสียค่าปรับได้

ข้อดีของการรีไฟแนนซ์

  1. อัตราดอกเบี้ยรีไฟแนนซ์ที่ใหม่ถูกกว่า ซึ่งหากผ่อนในระยะยาว การผ่อนบ้านกับเงื่อนไขรีไฟแนนซ์ใหม่มีโอกาสโปะบ้านได้เร็วขึ้น
  2. บางกรณีจะได้รับวงเงินส่วนต่างจากการรีไฟแนนซ์ ทำให้มีสภาพคล่องทางการเงินเพิ่มขึ้น
  3. ระยะเวลาในการผ่อนชำระอาจสั้นลง และทำให้หนี้สินกระชับขึ้น

เป็นยังไงกันบ้างกับข้อดีและข้อเสียของบริการรีไฟแนนซ์ที่เราได้นำมาฝากในวันนี้ สำหรับผู้ที่ต้องการและมองหารับบริการรีไฟแนนซ์กับธนาคารอยู่ ก็อย่าลืมศึกษาเงื่อนไขของสัญญาที่ทางธนาคารแห่งใหม่เป็นผู้เสนอก่อน เพราะไม่แน่ว่าการรีไฟแนนซ์กับธนาคารที่แห่งใหม่อาจไม่คุ้มค่าก็เป็นได้

Scroll to Top